ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ภูมิภาคเบลโกรอด (Belgorod) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย ซึ่งมีพรมแดนติดกับยูเครน ได้เผชิญกับความวุ่นวายอย่างหนัก จากฝีมือกลุ่มติดอาวุธที่ลักลอบก่อวินาศกรรมในภูมิภาคดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ (22 พ.ค.)
กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเหตุให้มีพลเรือนได้รับบาดเจ็บ 12 คน และเสียชีวิต 1 ราย และเกิดการปะทะระหว่างรัสเซียกับกลุ่มติดอาวุธนั้น จนทางการรัสเซียต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
แม้ทางฝั่งรัสเซียจะออกมาบอกว่า ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มติดอาวุธของยูเครน แต่ฝั่งยูเครนก็ปฏิเสธ และบอกว่า ผู้ที่ลงมือเป็นชาวรัสเซียด้วยกันเองต่างหาก
สอดคล้องกับว่า มีผู้ที่ออกมาแสดงตัวรับผิดชอบต่อเหตุวินาศกรรมเบลโกรอด นั่นคือ “กลุ่มต่อต้าน” ซึ่งเป็นชาวรัสเซียที่ต่อต้านระบบการปกครองของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน โดยออกมาถึง 2 กลุ่ม ได้แก่ กองกำลังอาสาสมัครรัสเซีย (Russian Volunteer Corps; RVC) และกองกำลังเสรีภาพรัสเซีย (Freedom of Russia Legion)
สำหรับกองกำลังอาสาสมัครรัสเซียก่อตั้งขึ้นโดยชาวรัสเซียกลุ่มขวาจัดเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว และประกอบด้วยชาวรัสเซียที่ต่อสู้เพื่อยูเครนกับประเทศของตน
กลุ่มนี้เคลื่อนไหวในดินแดนของรัสเซีย และอ้างความรับผิดชอบในเหตุโจมตีเมื่อเดือนมีนาคม เช่นเดียวกับการบุกรุกเข้าไปในภูมิภาคเบลโกรอด
หน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครนกล่าวว่า RVC เป็นกลุ่มใต้ดินอิสระในรัสเซียซึ่งมีหน่วยหนึ่งประจำการอยู่ในกองทหารต่างชาติของยูเครนด้วย แต่กองทหารต่างชาติปฏิเสธความเกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ในวิดีโอที่โพสต์โดย RVC เมื่อวันจันทร์ แสดงให้เห็นชายสองคนที่อ้างว่าได้ยึดยานหุ้มเกราะของรัสเซีย โดยสามารถระบุชายหนึ่งในนั้นได้ว่าคือ อิลยา บ็อกดานอฟ ชาวรัสเซียที่ได้รับสัญชาติยูเครนในปี 2015 หลังจากต่อสู้กับกองกำลังที่รัสเซียหนุนหลังในภูมิภาคยูเครนตะวันออก
ขณะที่กองกำลังเสรีภาพรัสเซียนั้น ก่อตั้งขึ้นในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 จาก “ความปรารถนาของชาวรัสเซียที่จะต่อสู้ในแนวรบของกองทัพยูเครนกับแก๊งติดอาวุธของปูติน”
กองกำลังระบุว่า ได้ร่วมมือกับกองทัพยูเครนและปฏิบัติการภายใต้คำสั่งของยูเครน และกล่าวว่ากำลังสู้รบในยูเครนตะวันออก
รัสเซีย สังหารกลุ่มติดอาวุธจากยูเครน 70 คน เกี่ยวข้องก่อวินาศกรรม
ยูเครน ปฏิเสธส่งกองกำลังโจมตีรัสเซีย ผู้ก่อเหตุยอมรับเอง
รัสเซีย เผย ยูเครนส่งหน่วยวินาศกรรมโจมตีเจ็บเกือบ 10 คน
อย่างไรก็ดี โฆษกหน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครนกล่าวว่า การโจมตีในเบลโกรอดเกี่ยวข้องกับชาวรัสเซียเท่านั้น และพวกเขากำลังสร้าง “เขตปลอดภัย” เพื่อปกป้องพลเรือนยูเครน เขาไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธว่ากองกำลังที่ปฏิบัติการที่นั่นเป็นหน่วยหนึ่งของยูเครนหรือไม่
แอนดรีย์ บูซอฟ ตัวแทนหน่วยข่าวกรองด้านกลาโหมของยูเครน กล่าวว่า “เราสามารถยืนยันได้ว่าปฏิบัติการนี้ดำเนินการโดยพลเมืองรัสเซีย … ในยูเครน หน่วยเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังป้องกันและรักษาความปลอดภัย แต่ในรัสเซียพวกเขาทำหน้าที่เป็นกองกำลังอิสระ”
โดยกองกำลังทั้งสองออกมาสื่อสารในทำนองเดียวกันว่า พวกเขาจะ “ยังคงเดินหน้าปลดปล่อยภูมิภาคเบลโกรอด” ต่อไป และเน้นยำว่า พวกเขาคือ “อาสาสมัครผู้รักชาติ”
กองกำลังอ้างว่า รัสเซียมีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตี เนื่องจาก “รัสเซียไม่มีกำลังสำรองเพื่อตอบสนองต่อวิกฤตทางทหาร เจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมดเสียชีวิตและบาดเจ็บอยู่ในยูเครน”
ซีซาร์ หนึ่งในนักสู้ของกองกำลังเสรีภาพรัสเซีย กล่าวไว้ในวิดีโอที่เขาบันทึกไว้ก่อนเข้าร่วมการโจมตีรัสเซียข้ามพรมแดนเบลโกรอดว่า “รัสเซียจะเป็นอิสระ”
เขาบอกว่า “ตั้งแต่วันแรกของสงคราม หัวใจของผม หัวใจของชายชาวรัสเซียที่แท้จริง คริสเตียนที่แท้จริง บอกกับผมว่า ผมต้องอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องประชาชนของยูเครน”
ด้าน พล.ท.มาร์ก เฮิร์ตลิง อดีตทหารกองทัพที่เกษียณแล้ว ได้กล่าวถึงปฏิบัติการวินาซกรรมเบลโกรอดว่า เป็นการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวที่มีขึ้นเพื่อให้กองทัพรัสเซียต้องเปลี่ยนกลับไปตั้งรับจากเดิมที่คาดว่าจะเริ่มโจมตีกลับ หลังถูกกดมานานในสมรภูมิบัคมุต
“นี่เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการสร้างรูปร่าง สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ และถือเป็นกลวิธีที่ยอดเยี่ยม คือการที่กองกำลังเสรีภาพแห่งรัสเซียและกองกำลังอาสาสมัครรัสเซียเหล่านี้ กำลังไปในทิศทางตรงกันข้าม พวกเขากำลังพยายามปลดปล่อยดินแดนของรัสเซีย” เฮิร์ตลิงกล่าว
ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า เหตุวินาศกรรมครั้งนี้ไม่น่าจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในสงครามยูเครน แต่มีศักยภาพในการเป็น “ตัวกำหนดเรื่องราว” เกี่ยวกับความขัดแย้งทั้งในรัสเซียและยูเครน
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า รัสเซียมีความกระตือรือร้นที่จะใช้ความสูญเสียของชาวรัสเซียเพื่อเป็นข้ออ้างในการเพิ่มระดับการโจมตียูเครน โดยอาจแจ้งต่อสาธารณะว่า การโจมตียูเครนเป็นการป้องกันตนเองและจำเป็นต่อการรักษาความปลอดภัยของรัสเซีย แม้ว่ายูเครนจะปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมอย่างเป็นทางการก็ตาม
เรียบเรียงจาก CNN / Reuters
ภาพจาก AFP